เชื่อว่าคงมีคนจำนวนมากที่เมื่อตื่นนอนในตอนเช้า สิ่งแรกที่ทำคือการตรวจสอบแจ้งเตือนหรือกิจกรรมล่าสุดบนสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) และก่อนจะนอนหลับก็มักจะใช้เวลาเลื่อนดูฟีดข้อมูลบนสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้นอยู่เรื่อยๆ เพราะสื่อสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนจำนวนมาก และยังเป็นพื้นที่ที่คนจำนวนมากใช้ในการแบ่งปันเรื่องราวของตนเอง รวมถึงติดตามข่าวสารในประเด็นที่ตนเองสนใจ ด้วยพฤติกรรมเหล่านี้เอง ที่ทำให้สื่อสังคมออนไลน์กลายเป็นช่องทางสำคัญอีกช่องทางหนึ่งในการทำการประชาสัมพันธ์และการตลาดสำหรับแบรนด์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Social Media คือ อะไร มีกี่ประเภท และเหตุผลว่าทำไมธุรกิจถึงต้องมีช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ รวมถึงสิ่งสำคัญอื่นๆ ที่คุณควรรู้
ประเภทของ Social Media คือ มีดังนี้
ในปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์สามารถจำแนกได้ทั้งหมด 5 ประเภทหลัก โดยแต่ละประเภทมีรายละเอียดดังนี้
- สื่อสังคมออนไลน์แบบเครือข่ายสังคม
หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่ “เชื่อมโยง” ผู้คนผ่านการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือการติดตามกลุ่มหรือบุคคลที่สนใจในเรื่องเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ตัวอย่างเช่น เฟซบุ๊ก (Facebook) - สื่อสังคมออนไลน์แบบแชร์สื่อ
หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้สำหรับ “แบ่งปันเนื้อหา” ต่างๆ เช่น รูปภาพหรือวิดีโอ ยกตัวอย่างเช่น อินสตาแกรม (Instagram), ยูทูบ (YouTube) และวิมีโอ (Vimeo) - สื่อสังคมออนไลน์แบบเน้นการอภิปราย
หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่เน้นการ “ตั้งคำถามและพูดคุย” หรือแลกเปลี่ยนทัศนคติเป็นหลัก โดยไม่ได้เน้นการติดตามเช่นเดียวกับ 2 ประเภทแรก ตัวอย่างเช่น Quora, Reddit และหากจะยกตัวอย่างที่คุ้นเคยมากขึ้น คงเป็น พันทิพย์ดอทคอม (Pantip.com) - สื่อสังคมออนไลน์แบบรีวิว
หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่เน้นการ “รีวิว” เป็นหลัก ซึ่งรวมถึงการรีวิวโรงแรม ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และอื่นๆ เพื่อให้ผู้สนใจใช้เป็น “แนวทาง” ในการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น ทริปแอดไวเซอร์ (TripAdvisor), กูเกิ้ลไมบิซิเนส (Google My Business) หรือที่ได้รับความนิยมสูงในประเทศไทย คือ วงในดอทคอม (Wongnai) - สื่อสังคมออนไลน์แบบไมโครผสม
หมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่เน้นการ “แชร์ข้อความสั้นๆ” เนื้อหาที่แบ่งปันอาจมีลักษณะค่อนข้าง Freestyle หรือในบางครั้งอาจมีการแทรกสื่อประเภทอื่นๆ เช่น ทัมบ์เลอร์ (Tumblr), ทวิตเตอร์ (Twitter) หรือแม้แต่ทิคตอก (TikTok) ก็นับว่าเป็นสื่อสังคมออนไลน์ประเภทนี้เช่นกัน
ตัวอย่าง Social Media ยอดนิยม ที่ใช้กันในปัจจุบัน
- เฟซบุ๊ก (Facebook)
เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ยุคแรกๆ ก่อตั้งโดยมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก คุณสามารถโพสต์สิ่งที่ต้องการให้เพื่อนๆ ในโลกออนไลน์ได้รับชม ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ และใช้สื่อสารพูดคุยกับเพื่อนๆ ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังเป็นแพลตฟอร์มที่นิยมใช้ทำการตลาดด้วย - อินสตาแกรม (Instagram)
แพลตฟอร์มที่คุณสามารถแสดงเอกลักษณ์และไลฟ์สไตล์ของตนเองผ่านรูปภาพและวิดีโอ คนอื่นๆ สามารถกดติดตามคุณได้ และคุณก็สามารถติดตามผู้อื่นที่คุณสนใจได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังสามารถสื่อสารพูดคุยกับผู้อื่นในโลกออนไลน์ผ่านช่องทางนี้ด้วย - ทวิตเตอร์ (Twitter)
ชุมชนออนไลน์ที่คุณสามารถโพสต์ (ทวีต) สิ่งที่ต้องการได้ โดยจะเน้นไปที่ข้อความสั้นๆ และเน้นความเรียลไทม์เป็นหลัก เป็นช่องทางที่ผู้คนนิยมใช้รับข่าวสารหรือเทรนด์ต่างๆ เนื่องจากมีความรวดเร็วสูง - ยูทูบ (YouTube)
แพลตฟอร์มสำหรับวิดีโอ ที่ผู้สร้างสรรค์เนื้อหา (ครีเอเตอร์) สามารถอัปโหลดคลิปของตนเองได้ และก็เป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้ามารับชมวิดีโอในหัวข้อที่ตนเองสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเพลง รีวิวสินค้า หรือคลิปให้ความรู้ต่างๆ - ติกตอก (TikTok)
แพลตฟอร์มวิดีโอยอดนิยมล่าสุด เป็นช่องทางที่คุณสามารถสร้างสรรค์คลิปวิดีโอในสไตล์ของตนเองได้อย่างอิสระ มีทั้งคอนเทนต์แบบสั้นและยาว เป็นช่องทางที่ผู้ประกอบการออนไลน์นิยมใช้มาก เนื่องจากสามารถสร้างรายได้จากคลิปรีวิว อินฟลูเอนเซอร์ และการไลฟ์สดขายของได้อย่างรวดเร็ว - วงใน (Wongnai)
แหล่งรวมคอมมูนิตี้ของผู้มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย นำเสนอคอนเทนต์รีวิวจากผู้ใช้จริงในประเด็นต่างๆ เช่น สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร คาเฟ่ ผับบาร์ และความงาม นอกจากนี้ยังมีระบบสำหรับเจ้าของธุรกิจด้วย - ทัมบ์เลอร์ (Tumblr)
แหล่งรวมคอมมูนิตี้ที่มีการใช้งานคล้ายกับเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ แต่แตกต่างตรงที่ ทัมบ์เลอร์เป็นบล็อกที่สามารถรองรับไฟล์ได้หลากหลายประเภทและมีประสิทธิภาพสูงกว่า พร้อมทั้งมีฟีเจอร์น่าสนใจไม่แพ้แพลตฟอร์มอื่นๆ - เรดดิท (Reddit)
คอมมูนิตี้รูปแบบเว็บบอร์ดจากอเมริกา มีหมวดหมู่ย่อยมากมายที่สร้างขึ้นโดยผู้ใช้ ครอบคลุมหลากหลายหัวข้อ เช่น เกม ดนตรี ภาพยนตร์ และเทคโนโลยี ผู้ใช้สามารถโพสต์คำถาม รอคนอื่นตอบ และโหวตให้กับโพสต์อื่นๆ ได้อย่างเสรี - คอร่า (Quora)
เป็นแพลตฟอร์มแบบถาม-ตอบ ทุกคนสามารถตั้งคำถามและตอบคำถามของผู้อื่นได้อย่างอิสระ มีการจัดหมวดหมู่ไว้เช่นเดียวกับเรดดิท มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและถือเป็นแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือมากที่สุดแห่งหนึ่ง
ข้อดี ข้อเสียของ Social Media คือ อะไร
สื่อสังคมออนไลน์หรือโซเชียลมีเดีย ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก โดยมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่น่าสนใจ ดังนี้
ข้อดีของสื่อสังคมออนไลน์
- การสื่อสารที่สะดวกและรวดเร็ว สามารถติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นได้ทุกที่ทุกเวลา
- การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้ง่ายยิ่งขึ้น รวมถึงการแบ่งปันเนื้อหาให้กับกลุ่มคนจำนวนมาก
- การสร้างปฏิสัมพันธ์และสร้างชุมชนออนไลน์ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
- เป็นช่องทางสำหรับการทำธุรกิจและการตลาด สามารถสร้างการรับรู้และโปรโมทสินค้าหรือบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นและมุมมองแก่สาธารณะ ช่วยให้คนมีเสรีภาพในการพูดมากขึ้น
ข้อเสียของสื่อสังคมออนไลน์
- การละเมิดความเป็นส่วนตัว เนื่องจากมีการแชร์ข้อมูลส่วนบุคคล รูปภาพ และกิจกรรมต่างๆ
- การสร้างความเครียด วิตกกังวล เมื่อติดตามข้อมูลหรือข่าวเกินความจำเป็น
- การเสพติดสื่อสังคมออนไลน์ ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนแพลตฟอร์มเหล่านี้
- การแพร่กระจายของข้อมูลเท็จและข่าวลวง อาจทำให้เกิดความสับสนและคลาดเคลื่อนไปจากความจริง
- การนินทา การคุกคาม หรือการละเมิดลิขสิทธิ์ต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้จากผู้ใช้งานบางกลุ่ม
สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์หากนำไปใช้อย่างถูกต้องเหมาะสม แต่ก็ควรใช้ด้วยความระมัดระวังและรู้เท่าทันข้อเสียต่างๆ เพื่อให้การใช้งานเกิดประโยชน์สูงสุด
เหตุผลว่าทำไมธุรกิจถึงต้องมี Social Media คือ อะไร
ในปัจจุบัน สื่อสังคมออนไลน์ไม่ใช่แค่พื้นที่สำหรับการแบ่งปันเรื่องราวชีวิตประจำวันของบุคคลธรรมดาอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่สำคัญสำหรับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็ก ขนาดกลาง หรือแม้แต่บริษัทข้ามชาติระดับโลกก็ตาม มีหลายเหตุผลที่ธุรกิจต้องมีสื่อสังคมออนไลน์ ดังนี้
- การเข้าถึงฐานลูกค้าจำนวนมาก
สื่อสังคมออนไลน์เปิดโอกาสให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมหาศาล โดยไม่จำกัดอยู่แค่เพียงบริเวณใกล้เคียง แต่สามารถขยายการเข้าถึงไปทั่วโลกได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้ง่ายต่อการสื่อสารและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น - สร้างการรับรู้และภาพลักษณ์ของแบรนด์
การมีสื่อสังคมออนไลน์จะช่วยเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ของธุรกิจ สามารถสร้างภาพลักษณ์และนำเสนอเอกลักษณ์ของแบรนด์ได้ชัดเจนมากขึ้น รวมถึงเป็นช่องทางในการสร้างความผูกพันและความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า - การตลาดในต้นทุนต่ำ
เมื่อเทียบกับการตลาดในรูปแบบดั้งเดิม สื่อสังคมออนไลน์นับว่าเป็นช่องทางการตลาดที่มีต้นทุนต่ำ สามารถเริ่มต้นใช้งานได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก - การวิเคราะห์และสำรวจตลาด
สื่อสังคมออนไลน์ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับลูกค้า พฤติกรรม และแนวโน้มตลาด ช่วยให้สามารถวิเคราะห์และสำรวจความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เพื่อนำไปปรับกลยุทธ์ทางการตลาดให้ตรงความต้องการมากขึ้น - สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางที่ดีในการรับฟังและตอบสนองความคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ จากลูกค้า สร้างปฏิสัมพันธ์และมีการสื่อสารแบบสองทางได้อย่างทันท่วงที ส่งผลให้เกิดความสัมพันธ์และประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า
เมื่อพิจารณาถึงข้อดีและข้อเสียของ Social Media คือ อะไรแล้ว จะเห็นได้ว่ามันเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์และพิษภัยปะปนกันไป การที่เราจะได้รับประโยชน์สูงสุดหรือเสียหายร้ายแรงนั้นขึ้นอยู่กับวิธีการใช้งานของเราเอง เราจึงจำเป็นต้องใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างระมัดระวัง รู้จักกลั่นกรองและควบคุมการใช้งานให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม นั่นคือวิธีที่จะช่วยให้เราได้รับประโยชน์สูงสุดจากสื่อสังคมออนไลน์ และลดความเสี่ยงจากอันตรายต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
